แฮร์รี่พอตเตอร์ Harry Potter ทุกภาค

แฮร์รี่พอตเตอร์

แฮร์รี่พอตเตอร์ Harry Potter   ซีรีส์ภาพยนตร์ Harry Potter ซึ่งดัดแปลงปรับปรุงแก้ไขมาจากหนังสือสุดโปรดของ J.K. Rowling มีภาพยนตร์ 8 เรื่องซึ่งบอกเล่าเรื่องราวการเดินทางของ Harry Potter บิดามดชายหนุ่มผู้ถูกลิขิตให้ประจันหน้ากับบิดามดดำ Lord Voldemort ต่อแต่นี้ไปเป็นภาพรวมของภาพยนตร์แต่ละเรื่อง:

Harry Potter and the Sorcerer’s Stone (2001)

ภาพยนตร์เรื่องแรกเป็นการสร้างบรรยากาศให้กับซีรีส์ทั้งผอง เป็นภาพยนตร์ที่มีมนต์ขลัง สนุกสนานรื่นเริง รวมทั้งเหมาะสมมากสำหรับเพื่อการเสนอแนะผู้ชมให้รู้จักกับโลกคาถา ภาพยนตร์ประเด็นนี้ถ่ายทอดความแปลกประหลาดแล้วก็เสน่ห์ของการศึกษาค้นพบฮอกวอตส์ได้อย่างยอดเยี่ยม ดารารุ่นเยาว์ ได้แก่ Daniel Radcliffe, Emma Watson แล้วก็ Rupert Grint ต่างก็แสดงได้ดีเยี่ยมอย่างน่าแปลกใจ ถึงแม้ว่าพวกเขาจะไม่มีประสบการณ์ก็ตาม

เรื่องย่อ ตอนที่วันเกิดปีที่ 11 ของ แฮร์รี่ พอตเตอร์ (แดเนียล แรดคลิฟฟ์) ใกล้จะมาถึง เขาหวังเล็กๆว่าจะมีเรื่องมีราวตื่นเต้น หรือของขวัญจากครอบครัวเดอร์สลีย์ พี่น้องใจดำที่รับเลี้ยงแฮร์รี่ ภายหลังที่บิดามารดาของเขาเสียชีวิตลง และก็บังคับให้เขานอนอยู่ภายในห้องใต้บันได

แต่ว่าปีนี้ วันเกิดของแฮร์รี่จะผิดแผกแตกต่างออกไป… มีจดหมายลึกลับจ่าหน้าจดหมายถึงแฮร์รี่ เขียนด้วยน้ำหมึกสีเขียวมรกต โดยมีนกฮูกตัวหนึ่งเอามาส่ง แฮร์รี่รู้สึกสนเท่ห์ใจ และก็ตื่นเต้นด้วยความอยากรู้อยากเห็นสิ่งที่ทำให้เกิดจดหมาย แต่ว่าคุณลุงเวอร์นอน (ริชาร์ด กริฟฟิธส์) จอมโหดเหี้ยม ทำลายมันทิ้งซะก่อนที่แฮร์รี่จะได้โอกาสอ่านมัน

วันถัดมา มีจดหมายอีกฉบับมากับนกเค้าแมว แต่ว่าครอบครัวเดอร์สลีย์ทำเสมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แล้วก็ในวันรๆมา จดหมายเยอะมาก รวมทั้งนกเค้าแมวยังคงส่งถึงแฮร์รี่ จนกระทั่งกระอีกทั้งครอบครัวเดอร์สลีย์กลัวว่า พวกเขาไม่อาจจะปกป้อง สิ่งที่ใส่อยู่ข้างในจดหมายได้อีกต่อไป ด้วยเหตุนั้นพวกเขาก็เลยพาแฮร์รี่ไปยังกระต๊อบที่อยู่ห่างไกลผู้คน ที่ที่พวกเขาแน่ใจว่าจะไม่มีผู้ใดเจอ

แผนของพวกเขาดูเหมือนกับว่าจะเห็นผล ตราบจนกระทั่งกำเนิดเสียงชนดังอย่างแรง กระทั่งบานประตูกระต๊อบหลุดออกมาจากบานพับ กับการปรากฏกายของชายร่างยักษ์ที่ชื่อ แฮกริด (ร็อบบี้ วัวลทราน) ด้วยความโมโหครอบครัวเดอร์สลีย์ที่ทำลายจดหมาย และก็อุตสาหะปกปิดฐานะที่จริงจริงของหลานชาย แฮกริดก็เลยได้เปิดเผยความลับ ที่ก่อให้เกิดความเคลื่อนไหวในชีวิตของแฮร์รี่ เรื่องจริงที่ว่า แฮร์รี่ พอตเตอร์ เป็นบิดามด!

ถึงแม้แฮร์รี่ไม่ได้อยากจะเชื่อ แต่ว่าจดหมายพิศวงที่เพียรส่งมา เป็นคำเชิญชวนสำหรับเขา ในจังหวะครบรอบวันเกิดปีที่ 11 เพื่อออกมาจากโลกธรรมดา รวมทั้งร่วมกลุ่มกับเพื่อนพ้องๆที่มีความรู้และมีความเข้าใจใกล้เคียงกับเขา ที่สถานศึกษาคาถาอาคมบิดามดแม่มดรวมทั้งคาถาศาสตร์ ฮอกวอตส์

แฮกริดยังได้ชี้แจงถัดไปอีกว่า บิดามารดาของแฮร์รี่มิได้ตายด้วยอุบัติเหตุรถชน อย่างที่พี่น้องใจจืดใจดำของเขาย้ำให้ฟังเสมอ เรื่องจริงก็คือ พวกเขาถูกฆ่าตายโดยบิดามดผู้ชั่วช้า ซึ่งเป็นตัวกระบวนการทำให้กำเนิดรอยแผลเป็นรูปสายฟ้าฟาด ที่มองเห็นแจ่มชัดบนหน้าผากของแฮร์รี่

แฮร์รี่รู้สึกซาบซึ้งกับความเป็นจริง ที่เขาได้รับทราบเกี่ยวกับบิดามารดา แล้วก็การได้รับชักชวนไปที่ฮอกวอตส์ แม้กระนั้น การที่เขาจำต้องทนอยู่ภายในห้องใต้บันได แล้วก็เป็นผู้ไม่เป็นที่ต้องการ ทำให้เขาไม่รีรอที่จะร่วมเดินทางไปพร้อมด้วยแฮกริด ไปยังสถานีคิงส์ครอส ในลอนดอน ที่ที่เขาได้เจอความลับ เกี่ยวกับชานชาลาสถานีเลข 9 3/4 เพื่อจับรถด่วนฮอกวอตส์

เขาเดินทางด้วยรถไฟ ไปพร้อมทั้งพวกผู้เรียนปีหนึ่ง แฮร์รี่ได้ทำความรู้จักกับเพื่อนฝูงอย่าง เฮอร์ไมโอนี่ เกรนพบร์ (เอ็มม่า วัตสัน) แล้วก็ รอน วีสลีย์ (รูเพิร์ต กริ้นท์) แฮร์รี่รวมทั้งบรรดาสหายใหม่ของเขา ร่วมการเสี่ยงอันตรายที่ฮอกวอตส์ สถานที่ที่งดงามน่าประทับใจ เกินกว่าที่แฮร์รี่จินตนาการไว้ ที่ที่เขาศึกษาและทำการค้นพบพรสวรรค์ของเขา รวมทั้งเจอบ้านและก็ครอบครัวที่เขาไม่เคยมีมาก่อน

แฮร์รี่พอตเตอร์ Harry Potter

แฮร์รี่พอตเตอร์

Harry Potter and the Chamber of Secrets (2002)

แฮร์รี่พอตเตอร์ Harry Potter ภาคลำดับที่สองทำให้ความลี้ลับสลับซับซ้อนเพิ่มขึ้นด้วยส่วนประกอบที่มืดหม่นหมองเพิ่มขึ้น การเผชิญหน้าระหว่างแฮร์รี่กับบาสิลิสก์คนร้ายกาจและก็ทอม ริดเดิ้ลผู้ลึกลับทำให้มีความระทึกใจมากเพิ่มขึ้น การเสี่ยงสูงมากขึ้น และก็เอฟเฟกต์พิเศษดีแล้วขึ้นอย่างชัดเจน

จุดเด่น: เค้าโครงเรื่องที่มืดมนรวมทั้งจูงใจเยอะขึ้นเรื่อยๆพร้อมฉากที่น่าตื่นตาตื่นใจ
จุดอ่อน: นิดหน่อยมองชี้แจงมากเกินความจำเป็น รวมทั้งโทนเรื่องบางทีอาจไม่บ่อยนัก

แฮร์รี่ พอตเตอร์กับนักโทษแห่งอัซคาบัน (2004)

ควบคุมโดยอัลฟองโซ คัวรอน ภาพยนตร์หัวข้อนี้ถือได้ว่าเป็นการเปลี่ยนโทนเรื่องที่สำคัญในซีรีส์นี้ ธีมที่มืดหม่นหมองกว่านั้นสมดุลกับการพัฒนานักแสดงที่สุดยอดและก็ความเกี่ยวพันที่สลับซับซ้อนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ การถ่ายรูปมีศิลป์มากยิ่งขึ้นอย่างชัดเจน

จุดเด่น: การควบคุมที่อดทน นักแสดงที่ลึกซึ้งขึ้น แล้วก็โทนเรื่องที่เป็นผู้ใหญ่ขึ้น

จุดด้วย: แฟนคลับบางบุคคลคิดว่ามันเบี่ยงเบนไปจากเนื้อหาของหนังสือมากเกินความจำเป็น

แฮร์รี่ พอตเตอร์กับถ้วยอัคนี (2005)

แฮร์รี่พอตเตอร์ Harry Potter ความยุ่งยากกำลังคอย แฮร์รี่ พอตเตอร์ อยู่ด้านหน้า…จากการเช็ดกคุกคามด้วยฝันร้าย ที่ทำให้แผลของเขาเจ็บมากกว่าที่เคย แฮร์รี่ (แดเนียล แรดคลิฟฟ์) รู้สึกมากกว่ายินดีที่กำลังจะได้หนีให้พ้น จากความฝันที่รอกวนโอ๊ยเขา ด้วยการไปดูการแข่งขันชิงชัยควิดดิชเวิลด์คัพกับ รอน (รูเพิร์ท กรินท์) รวมทั้ง เฮอร์ไมโอนี่ (เอ็มม่า วัตสัน) ผู้เป็นเพื่อนรัก

แม้กระนั้นลางอะไรบางอย่างได้ปรากฏขึ้น เหนือฟ้าที่ตั้งแคมพ์ผู้ชมการประลองควิดดิช – ยี่ห้อมาร เครื่องหมายของลอร์ดโอ้อวดลเดอมอร์ ซึ่งถูกเสกขึ้นมาโดยผู้เสพความตาย สาวกของเขาซึ่งไม่เคยกล้าเผยตัวในที่ส่วนรวม ตั้งแต่ครั้งที่มีผู้เห็น โอ้อวดลเดอมอร์ (ราล์ฟ เฟนส์) เป็นหนสุดท้ายเมื่อสิบสามปีกลาย ในคืนที่เขาฆ่าบิดามารดาของแฮร์รี่

ดัมเบิลดอร์ประกาศว่า ฮอกวอตส์จะเป็นเจ้าภาพการประลองเวทสนธิสัญญาไตรภาคี การประลองด้านเวทมนตร์คาถาของพวกบิดามดแม่มด ที่น่าตื่นตาตื่นใจและก็มีอันตรายยิ่ง ผู้แทนหนึ่งคนจะถูกเลือกสรรจากแต่ละสถานที่เรียน ในสามสถาบันบิดามดแม่มดที่ใหญ่ แล้วก็โด่งดังที่สุด เพื่อลงแข่งขันในมากมายภารกิจ ที่เสี่ยงต่อการเกิดอันตรายถึงชีวิต อันมีเป้าหมายสำหรับการครอบครองถ้วยรางวัลสนธิสัญญาไตรภาคี

พวกผู้เรียนฮอกวอตส์สอดส่องอย่างหวาดหวั่นๆเมื่อบรรดาเด็กนักเรียนหญิงที่สง่า จากสถานศึกษาคาถาอาคมโบซ์บาตง รวมทั้งชายหนุ่มๆที่มองลึกลับและก็น่านับถือ จากสถานที่เรียนเดิร์มสแตรงก์ พากันหลั่งไหลเข้ามาในห้องรับรอง ทุกคนต่างกลั้นใจ รอการเลือกเฟ้นผู้แทนของพวกเขา

ข้าราชการจากกระทรวงมนตร์ บาร์ตี้ เคร้าช์ (โรเจอร์ ลอยด์ แพ็ค) และก็ศ.จ.ดัมเบิลดอร์ เป็นประธานพิธีการสัมมนากึ่งกลางแสงเทียน ที่เต็มไปด้วยการคอย ในช่วงเวลาที่ถ้วยอัคนิซึ่งเปี่ยมมนตร์ขลัง เลือกเฟ้นเด็กนักเรียนหนึ่งคน จากแต่ละสถานศึกษาเพื่อลงแข่งขัน ท่ามกลางประกายรวมทั้งเปลวที่เจิดจ้า ถ้วยอัคคีได้ขานตอบนาม วิคเตอร์ ครัม (สแตนิสลาฟ ไออาเนฟสกี้) นักกีฬาควิดดิชโด่งดังจากเดิร์มสแตรงก์ ตามมาด้วย เฟลอร์ เดอลากูร์ (เคลมองซ์ โพเอซี) ผู้งานเด่นเป็นสง่าจากโบซ์บาตง แล้วก็สุดท้าย เซดริก เกเกลื่อนกลาดอปรี่ (โรเบิร์ต แพตว่ากล่าวนสัน) ชายหนุ่มเนื้อหอมผู้สามารถที่ฮอกวอตส์ แม้กระนั้นแล้ว อย่างที่ไม่มีผู้ใดชี้แจงได้ ถ้วยอัคนิก็ส่งชื่อในที่สุดออกมา : แฮร์รี่ พอตเตอร์

ด้วยอายุ 14 ปี แฮร์รี่ยังขาดอีกสามปี ก็เลยจะมีสิทธิร่วมการแข่งขันชิงชัยอันแสนยากเย็นแสนเข็ญนี้ได้ เขาการันตีว่ามิได้ใส่ชื่อจริงเองลงไปในถ้วย แล้วก็เขาไม่ต้องการที่จะอยากลงแข่งขัน แม้กระนั้นการตัดสินใจของถ้วยไฟนั้นนับว่าเป็นข้อผูกมัด และก็เขาจำเป็นต้องร่วมแข่งด้วย

ความกังขารวมทั้งอิจฉาริษยาเกิดขึ้นตามมาไม่หยุดหย่อน ยิ่งเมื่อผู้สื่อข่าวจอมสาดโคลนอย่าง ริต้า สกีตเตอร์ (ไม่แรนด้า ริชาร์ดสัน) โหมแพร่ไฟใส่สีอยู่เบื้องหน้าเบื้องหลังแฮร์รี่ ด้วยคอลัมน์ซุบซิบที่หวือหวาของคุณ จนถึงต่อให้รอนเองก็ยังเริ่มที่จะมั่นใจว่าเพื่อนพ้อง “ที่ต้องการดัง” ของเขา ได้ใช้กลอุบายหลอกให้ถ้วยเลือกชื่อเขาขึ้นมา

สำหรับแฮร์รี่ การจัดการกับมังกร ชาวนางเงือก รวมทั้งกรินดี้โลว์ เปรียบเหมือนการเดินเที่ยวในสวนสาธารณะ เมื่อเทียบกับการขอนัดกับ โช แชง (เคธี่ เหลียง) ผู้สวย ไปงานเต้นรำ และก็หากว่ารอนผิดเบี่ยงเบนความพอใจมากเกินความจำเป็น บางครั้งบางคราวเขาบางทีอาจสารภาพการเปลี่ยนแปลงของความรู้สึก ที่เขามีต่อเฮอร์ไมโอนี่ก็เป็นไปได้

เวลาที่แฮร์รี่และก็ผู้แทนคนอื่นจำเป็นต้องต่อกรกับภารกิจในที่สุด แล้วก็แขนงที่แตกหน่ออย่างเร็วของเขาวงกตที่น่าสะพรึงกลัว บางบุคคลหรือบางอย่างกำลังเฝ้ามองอยู่ พวกเขาเห็นความมีชัยอยู่ข้างหน้า แม้กระนั้นเมื่อเข้าไปใกล้ถ้วยสนธิสัญญาไตรภาคี ทุกๆสิ่งทุกๆอย่างกลับมิได้เป็นอย่างที่มองเห็น และก็แฮร์รี่ก็ได้พบว่า ตัวเขากำลังพุ่งตรงเข้าไปสู่การเผชิญหน้ากับมารร้าย อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้…

Harry Potter and the Order of the Phoenix (2007)

แฮร์รี่พอตเตอร์

แฮร์รี่พอตเตอร์ Harry Potter เป็นภาพยนตร์ที่มืดหมองที่สุดเท่าที่เคยมีมา ภาคนี้เอ๋ยถึงการมีอยู่ของกระทรวงมนตร์ที่น่าอึดอัดแล้วก็การต่อสู้ด้านในตัวของแฮร์รี่ อีเมลดา สเตาน์ตันในบทโดโลเรส อัมบริดจ์แสดงบทตัวร้ายที่น่าจำ ภาพยนตร์ประเด็นนี้ย้ำการบ้านการเมืองและก็จิตวิทยามากยิ่งกว่า

จุดเด่น: การแสดงที่ทรงประสิทธิภาพ ธีมที่มืดหม่นหมองแล้วก็เป็นผู้ใหญ่ขึ้น ความลึกทางอารมณ์
ข้อด้อย: แฟนคลับบางบุคคลพลาดส่วนประกอบสำคัญจากหนังสือเนื่องมาจากเรื่องราวที่กระชับ

Harry Potter and the Half-Blood Prince (2009)

ภาพยนตร์หัวข้อนี้เจาะลึกเรื่องราวเบื้องหน้าเบื้องหลังของโม้ลเดอมอร์ตในเวลาที่ย้ำที่ความเคร่งเครียดที่มากเพิ่มขึ้นระหว่างนักแสดง ภาพยนตร์ประเด็นนี้สวยหรู มีความสมดุลระหว่างอารมณ์ขันและก็หายนะที่ใกล้เข้ามา การเปิดเผยตัวพระราชโอรสเลือดผสมนับว่าเป็นระยะเวลาสำคัญ

จุดเด่น: ภาพที่งดงาม ความสลับซับซ้อนทางอารมณ์ ความสมดุลของอารมณ์ขันและก็ความมืดดำมิดที่สุดยอด
จุดบกพร่อง: ส่วนประกอบอะไรบางอย่างมองรีบเร่ง รวมทั้งการต่อสู้คราวสุดท้ายก็มองไม่ค่อยสำคัญเมื่อเทียบกับหนังสือ

Harry Potter and the Deathly Hallows – ในขณะที่ 1 (2010)

แฮร์รี่พอตเตอร์

ครึ่งแรกของหนังสือปรับปรุงแก้ไขดัดแปลงเล่มในที่สุดนั้นค่อนจะเดินเรื่องช้าๆภาพยนตร์หัวข้อนี้ย้ำไปที่การเดินทางของอีกทั้งสามคนเพื่อค้นหาฮอร์ครักซ์ เรื่องราวออกจะมืดหมอง เชิญชวนให้ตรึกตรองครุ่นคิด แล้วก็เต็มไปด้วยความเครียด holamovies

จุดเด่น: เน้นย้ำที่ผู้แสดงอย่างเข้มข้น บรรยากาศอันแสนจะเคร่งเครียด ทิวภาพสวย
ข้อตำหนิ: จังหวะที่ช้าบางทีอาจมองกินเวลา แล้วก็ฉากแอ็กชั่นก็น้อย

Harry Potter and the Deathly Hallows – ขณะที่ 2 (2011)

แฮร์รี่พอตเตอร์ Harry Potter ผลสรุปที่ยิ่งใหญ่ยอดเยี่ยมนี้เป็นไปตามคำมั่นสัญญาที่สร้างไว้ตลอดทั้งซีรีส์ การต่อสู้ที่ฮอกวอตส์นั้นน่าเร้าใจ เชิญอารมณ์ รวมทั้งถูกใจ ภาพยนตร์ประเด็นนี้ผูกเรื่องส่วนมากเข้าด้วยกันและก็เป็นวาระสุดท้ายที่สมควรให้กับการเดินทางของแฮปรี่

จุดเด่น: ฉากต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่ ความลึกทางอารมณ์ ผลสรุปที่ถูกใจ

ข้อด้อย: พล็อตเรื่องของนักแสดงบางตัวมิได้รับการพัฒนาเนื่องมาจากจังหวะที่เร็วของฉากแอ็กชั่น